หยุดยาวคราวหน้าไม่พลาด สวยสุดๆ ทะเลหมอก หนองคาย-เลย

เข้าสู่หน้าหนาว และใกล้ช่วงวันหยุดยาวอีกรอบ ทีมข่าว มติชนออนไลน์ ขอเรียกน้ำย่อยผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว ด้วยภาพบรรยากาศสวยๆ ของทะเลหมอก และอากาศเย็นจับใจใน 2 จังหวัด

รก ที่ ภูห้วยอีสัน อ.สังคม จ.หนองคาย  ช่วงสุดสัปดาห์มีนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดหนองคาย และจากจังหวัดอื่นๆ เดินทางมาชมทะเลหมอกเหนือลำแม่น้ำโขงสองฝั่งไทยลาว โดยเฉพาะที่ห้วยอีสัน ต.บ้านม่วง มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมทะเลหมอกมากกว่าทุกจุด มีทั้งมาแบบครอบครัว แบบเป็นหมู่คณะ

นักท่องเที่ยวต่างไม่ผิดหวัง วันนี้มีทะเลหมอกเกิดขึ้นหนาแน่นและยาวนานที่สุดในรอบปี สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยคลื่นทะเลหมอกได้ไหลมากระทบกับภูเขาที่อยู่ด้านข้างทั้งสองข้างไทยลาวเป็นระลอก ๆ เหมือนคลื่นทะเลกระทบฝั่ง นอกจากจุดชมทะเลหมอกที่ภูห้วยอีสันที่มีอยู่เป็นลำดับชั้นถึง 3 จุดให้นักท่องเที่ยวได้ชมทะเลหมอกกันอย่างชัดเจนแล้ว ยังสามารถชมทะเลหมอกได้อีกที่ภูผาดัก และภูหอ ซึ่งสามารถชมทะเลหมอกเหนือแม่น้ำโขงไทยลาวได้อย่างสวยงานและประทับใจไม่แพ้กัน

กลัวตำรวจกว่ากลัวตาย! หนุ่มมียาบ้าจ๊ะเอ๋สายตรวจ จอดรถโดดคลองจมดับ

สองหนุ่มคนงานย่านบางพลี ต่างวัยแต่คอเดียวกัน ชวนกันขี่ จยย.ไปซื้อยาบ้า เสพที่บ้านคนขาย1เม็ด พกมา1เม็ด ถึงกลางทางตร.เรียกตรวจ คนขี่ตกใจจอดรถกระโดดลงน้ำว่ายไปถึงกลางคลองจมตายอนาถ ส่วนคนซ้อนท้ายอยู่เฉยๆ ไม่ตาย แต่ถูกจับ...  

เมื่อวันที่ 3 พ.ย.58 ร.ต.ท.จตุพล สาระทา พงส. สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.บางพลี ว่ามีผู้ต้องสงสัยหลบหนีการตรวจค้น กระโดดลงไปในคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ต.บางโฉลง อ.บางพลี และจมหายไป หลังรับแจ้งจึงรายงานต่อ พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รรท.ผบก.สมุทรปราการ พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า ผกก.สภ.บางพลี พ.ต.ท.เชาว์ ป้อมงาม รอง ผกก.สส และประสานเจ้าหน้าที่ประดาน้ำจากมูลนิธิร่วมกตัญญู ไปร่วมตรวจสอบ      

ที่เกิดเหตุริมถนนคลองส่งน้ำ พบเจ้าหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ ยืนคุมตัวชายวัยรุ่นอายุ 16 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 1 เม็ด และ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่น ซูมเมอร์ เอ็กซ์ สีม่วง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน ส่วนเพื่อนที่ขี่จักรยานยนต์มาด้วยกันกระโดดน้ำหนีลงคลองแล้วจมหายไป จึงให้เจ้าหน้าที่ประดาน้ำ ของมูลนิธิร่วมกตัญญู ลงงมหาอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง จึงพบและนำร่างขึ้นมา ทราบชื่อคือ นายศรชัย พุทธเสน อายุ 30 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านฝาง อ.สระใคร จ.หนองคาย       

ออกพรรษาเลือด! น้องคว้าปังตอฟันคอพี่ตายคาบ้าน ฉุนโดนด่าทุกวัน

หนองคาย - พี่น้องวัยดึกอยู่บ้านเดียวกันเมาทะเลาะกันทุกวัน พี่ชายฉุนกล่าวหาน้องชายขโมยเงิน 100 บาทดุด่าอยู่นาน น้องชายโมโห เดินเข้าครัวคว้าปังตอฟันคอพี่ตายคาบ้าน หลังก่อเหตุรอมอบตัวโดยดี                เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. คืนวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.กิตติธัช สีหาชัย พนักงานสอบสวนสภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งมีคนฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 10 ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนองคาย จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีดา ดวงพุทธา พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ วงศ์สนิทธีรา รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ สว.สส. แพทย์หญิงจิตเกษม คามเกตุ แพทย์เวรโรงพยาบาลหนองคาย และหน่วยกู้ภัยประจักษ์               ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ภายในบ้านชั้นล่างพบศพ นายสมแสง โมครัตน์ อายุ 68 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว สวมเสื้อยืดสีกรมท่า กางเกงวอร์มสีดำ นอนหงายเสียชีวิตอยู่ข้างฟูกที่นอน สภาพศพถูกฟันด้วยของมีคมเข้าที่บริเวณคอซ้าย ขวา หลังหูขวา และต้นคอด้านหลัง รวม 8 แผล               ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายทองแดง โมครัตน์ อายุ 66 ปี น้องชายผู้ตาย ถือมีดปังตอทำครัวติดคราบเลือดยืนรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ               จากการสอบสวน นายทองแดง โมครัตน์ ให้การว่า ภรรยา และลูกของตนไปทำงานที่กรุงเทพฯ ส่วน นายสมแสง พี่ชายเป็นคนโสดไม่มีครอบครัว ตนจึงมาพักอาศัยอยู่ด้วยมาได้หลายเดือนแล้ว โดยแต่ละวันทั้ง 2 คนจะดื่มเหล้าด้วยกัน พอนายสมแสง ดื่มเหล้าก็มักจะหาเรื่องดุด่าตนตลอด               จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุ นายสมแสง กล่าวหาว่า ตนขโมยเงิน 100 บาท ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้ขโมยไป พี่ชายก็ไม่เชื่อตนรำคาญจึงเดินขึ้นบนบ้าน แต่พี่ชายยังคงดุด่าอยู่นาน ทำให้ตนโมโหเดินเข้าไปในครัวคว้ามีดปังตอมาฟันพี่ชายที่ลำคอหลายครั้ง จนพี่ชายล้มลง และเสียชีวิต ซึ่งไม่ได้คิดหนี แล้วรอมอบตัวยอมรับผิดแต่โดยดี               เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปสอบสวนอย่างละเอียด และตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาพร้อมดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนศพผู้ตายญาติจะนำไปประกอบพิธีตามประเพณีต่อไป

เทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคหนองคาย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย แถลงข่าวงานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคประจำปี 2558

ณ บริเวณถนนคนเดินเมืองหนองคาย เขตเทศบาลเมืองหนองคาย อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย นายประสงค์ คงเคารพธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย พ.ต.อ.อรรคพงษ์ พิมลศิริ รอง ผบก.ภ.จังหวัดหนองคาย นายสุเทพ อินทะชัย รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย นายแพทย์สรร สุนทรธนากุล นายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัย นายภิญโญ แสงแก้ว ผู้ช่วยผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี นายอรรถพร ภักดีสุจริต เลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวงานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคประจำปี 2558

นายประสงค์ กล่าวว่าหน่วยงานต่างๆจึงได้ร่วมกันจัดงาน "เทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคจังหวัดหนองคาย" ขึ้น ณ บริเวณริมแม่น้ำโขงเขต อ.เมืองหนองคาย เทศบาลตำบลโพนพิสัย อ.โพนพิสัย และหลายอำเภอตามลำแม่น้ำโขง จ.หนองคาย ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย มหัศจรรย์ลุ่มน้ำโขงบั้งไฟพญานาค เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในลำน้ำโขง เฉพาะที่ จ.หนองคาย เท่านั้น และเจาะจงปรากฏให้เห็นในคืนวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี เว้นแต่ปีใดมีแปดสองหน บั้งไฟพญานาคจะปรากฏให้เห็นเป็นจำนวนมากในคืนแรม 1 ค่ำ เดือน 11 แต่ปีนี้ตรงกับวันที่ 27 ตุลาคม 2558 โดยทางจังหวัดหนองคายได้เปิดศาลากลางจังหวัดจังหนองคาย ที่ว่าการอำเภอเมืองหนองคาย อ.โพนพิสัย อ.รัตนวาปี เพื่อบริการที่พักสำหรับประชาชนที่มาท่องเที่ยวด้วย สำหรับจุดที่สามารถชมบั้งไฟพญานาคได้นั้นแทบจะอยู่ทุกอำเภอ แต่จากสถิติที่ทางจังหวัดได้เก็บข้อมูลจะมีพื้นที่หลักๆ ได้แก่ อ.โพนพิสัย อ.รัตนวาปี อ.ศรีเชียงใหม่ อ.สังคม และ อ.เมืองหนองคาย

คาดนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 3 แสนร่วมลุ้นบั้งไฟพญานาคริมโขง

หนองคาย - จังหวัดหนองคาย พร้อมแล้วต้อนรับนักท่องเที่ยวชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค 27 ตุลาคมนี้ คาดนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน แม้จะไม่ใช่วันหยุด
       
       เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (17 ต.ค.) ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนคนเดินเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ได้มีการแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลออกพรรษา บั้งไฟพญานาคโลก โดยมี นายประสงค์ คงเคารพธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ รองนายก อบจ.หนองคาย นายสุเทพ อินทะชัย รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย พ.ต.อ.อรรคพงศ์ พิมลศิริ รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย นายแพทย์สรร สุนทรธนากุล นายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัย และนายภิญโญ แสงแก้ว ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานอุดรธานี ร่วมแถลงข่าว
       
       จังหวัดหนองคาย ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อบจ.หนองคาย เทศบาลเมืองหนองคาย และเทศบาลตำบลโพนพิสัย กำหนดจัดงานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคโลก ระหว่างวันที่ 24 ต.ค.- 4 พ.ย.58 โดยมีกิจกรรมหลากหลายทั้งในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย และ อ.โพนพิสัย
       
       โดยเทศบาลเมืองหนองคาย จะเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค. ด้วยการจัดกิจกรรมถนนอาหาร การแสดงบนเวที ในวันที่ 25-26 ต.ค. จะมีการแสดงแสงเสียงเปิดตำนานบั้งไฟพญานาค บอกเล่าที่มาของบั้งไฟพญานาคตามความเชื่อของชาวหนองคายให้ได้ชม ณ วัดศรีบุญเรือง ริมฝั่งแม่น้ำโขง การจุดพลุเฉลิมฉลองงานเทศกาลออกพรรษานานกว่า 1 ชั่วโมง และไฮไลต์สำคัญคือ การชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 วันออกพรรษา ปีนี้ตรงกับวันอังคารที่ 27 ต.ค.58
       
       โดยพื้นที่ อ.โพนพิสัย และ อ.รัตนวาปี เป็นจุดชมบั้งไฟพญานาคที่เคยเกิดขึ้นให้เห็นเป็นประจำทุกปี ซึ่งปีที่ผ่านมา มีบั้งไฟพญานาคทั้งหมด 444 ลูก และอีกกิจกรรมใหญ่ของเทศบาลเมืองหนองคาย คือ การแข่งขันเรือยาวทั่วไปชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในวันที่ 28 ต.ค.58
       
       นอกจากนี้ที่ อ.โพนพิสัย จะมีพิธีบวงสรวงบูชาพญานาค กิจกรรมไหลเรือไฟ และการแสดงบนเวที ตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.-4 พ.ย.58
       
       เทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคโลกปีนี้แม้ว่าจะไม่ตรงกับวันหยุด แต่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว และชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา และจะทำให้เงินหมุนเวียนในจังหวัดหนองคายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งทางจังหวัดได้เตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว ทั้งด้านสาธารณูปโภค มีการขยายถนนจาก อ.เมืองหนองคาย-อ.โพนพิสัย เป็น 4 ช่องจราจร
       
       คาดว่าจะไม่มีปัญหารถติด ขอความร่วมมือผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่พัก โรงแรมไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคาค่าบริการ แจ้งเตือนประชาชนนักท่องเที่ยวไม่ให้มีการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟสร้างความรำคาญในการชมบั้งไฟพญานาค และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทั้งชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนตลอดช่วงการจัดงาน 

คาดชาวหนองคายร่วมกินเจคึกแม้ผัก-วัตถุดิบแพงขึ้น

หนองคาย - มูลนิธิสว่างคงคาธรรมสถาน เตรียมเทศกาลถือศีลกินเจประจำปีนี้ คาดยอดคนเข้าร่วมกินเจใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่พบผัก และวัตถุดิบอาหารเจแพงขึ้น               บรรยากาศการเตรียมเทศกาลถือศีลกินเจ ในวันนี้ (12 ต.ค.) ที่มูลนิธิสว่างคงคาธรรมสถาน ศูนย์วีอาร์กู้ภัยหนองคาย อาคารด้านหลังศาลเจ้า ได้มีการเตรียมพื้นที่จัดโต๊ะสำหรับนั่งรับประทานอาหารเจ และเตรียมวัตถุดิบไว้ปรุงอาหารเจแล้วหลายรายการ โดยมีแม่ครัวตั้งอกตั้งใจเตรียมอาหารตลอดทั้งวัน               ซึ่งในปีนี้พบว่า ผัก และวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารเจแพงขึ้น ผักหลายชนิดได้รับผลกระทบจากฝนตกต่อเนื่อง ทำให้มีราคาแพง ขณะที่ยอดบริจาคกลับลดลง               ทางมูลนิธิคาดว่าจะมีประชาชนชาวหนองคายมาร่วมรับประทานอาหารเจไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา โดยทางมูลนิธิจะจัดอาหารสำหรับมื้อเที่ยง และอาหารเย็นไว้ให้บริการ ผู้ที่สนใจสามารถมาลงทะเบียนรับปิ่นโตได้ หรือจะมารับประทานที่มูลนิธิด้วยตนเองก็ได้เช่นกัน               ช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ ระหว่างวันที่ 13-21 ต.ค.นี้ มูลนิธิสว่างคงคาธรรมสถาน วีอาร์กู้ภัยหนองคาย จัดต่อเนื่องปีนี้เป็นครั้งที่ 12 ซึ่งในแต่ละวันจะมีพิธีอัญเชิญเทพเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พิธีสวดมนต์ ทำวัตรเย็น พิธีเวียนธูปเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย

ฝากขังผู้ต้องหากระทำชำเราลูกสาวกิ๊กวัย 1 ปี 8 เดือนเสียชีวิต

หนองคาย - ตำรวจเมืองหนองคาย คุมตัวผู้ต้องหากระทำชำเราเด็กหญิงวัย 1 ปี 8 เดือน ลูกสาวของกิ๊ก จนเสียชีวิต ไปฝากขังต่อศาลจังหวัดหนองคายแล้ว               เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้( 2 ต.ค.)ร.ต.ท.กฤษณะ ธรรมจิตร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เจ้าของคดีการเสียชีวิตของ ด.ญ.แอน นามสมมติ อายุ 1 ปี 8 เดือน และจับกุมนางสาวพัชรี พรมวาศ ผู้เป็นแม่ พร้อมกับนายนพรัตน์ รูปสวย เพื่อนชายคนสนิท ได้คุมตัวนายนพรัตน์ ขึ้นรถไปฝากขังยังศาลจังหวัดหนองคาย ซึ่งนายนพรัตน์ ยังสวมใส่เสื้อผ้าชุดเดิมตั้งแต่ถูกจับกุมในวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา และจะถูกส่งตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำจังหวัดหนองคาย ภายในระยะเวลา 84 วัน จนกว่าสำนวนจะถูกส่งฟ้องศาล               หลังจากนั้นตำรวจได้ขออนุญาตศาลนำตัวนายนพรัตน์ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลหนองคาย แล้วคุมตัวกลับไปฝากขังอีกครั้ง         ส่วนนางสาวพัชรี ตำรวจได้คุมตัวไปยังศาลจังหวัดหนองคายในช่วงเช้า เพื่อขออำนาจศาลพิจารณาสั่งฟื้นฟูสมรรถภาพ เนื่องจากเป็นผู้เสพยาเสพติด และระหว่างรอคำสั่งศาล น.ส.พัชรี จะถูกคุมตัวไปที่ห้องฟื้นฟูสมรรถภาพภายในเรือนจำจังหวัดหนองคาย เมื่อมีคำสั่งศาลให้ฟื้นฟูจึงจะเบิกตัวออกมาส่งยังศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด จ.หนองคาย บริเวณกองร้อยอาสารักษาดินแดน               พ.ต.อ.ปรีดา ดวงพุทธา พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองหนองคาย เปิดเผยว่า ในวันนี้ตำรวจจะนำดีเอ็นเอจากผู้ตาย เปรียบเทียบกับนายนพรัตน์ รูปสวย ผู้ต้องหาส่งไปตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 นครราชสีมา (ศูนย์ดีเอ็นเอ) เพื่อเป็นหลักฐานสำคัญทางนิติวิทยาศาสตร์ของรูปคดี แม้ว่านายนพรัตน์ จะยังยืนกรานปฏิเสธไม่ได้เป็นผู้ลงมือข่มขืนหรือทำทารุณกรรมเด็กก็ตาม         แต่พนักงานสอบสวนมีหลักฐานทั้งพยานแวดล้อม พยานวัตถุ ความเห็นของผู้ชำนาญการพิเศษมาประกอบสำนวน ส่วนการสอบสวน น.ส.พัชรี พรมวาศ แม่ของเด็ก มีคำให้การบางถ้อยคำที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเช่นกัน               อย่างไรก็ตามคดีนี้ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้ทราบอย่างต่อเนื่อง และผู้บังคับบัญชาได้ให้กำลังใจ โดยเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของทีมงานทั้งชุดสืบสวนจับกุม และชุดสอบสวน คณะทำงานเองไม่หนักใจในการทำงาน คาดว่าจะสามารถคลี่คลายและปิดคดีได้เร็ว